ผลิตภัณฑ์

ทำไมจึงควรเลือกใช้อิฐขาว KS

• ร้าวน้อย * มีอัตราการร้าวหลังการฉาบน้อยกว่าวัสดุอื่นเนื่องจากมีค่าการดูดซึมน้ำน้อยกว่าที่เพียง 18.9% ในขณะที่อิฐชนิดอื่นมีสูงถึง 30% (สามารถดูในตารางเปรียบเทียบ)
• แข็งแกร่ง*  มีความแข็งแกร่งโดยสามารถรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 180 กก./ตร.ซม. สามารถยึดติดของหนักต่างๆได้อย่างมั่นคง
• เย็น* มีเทคโนโลยี Double Layer Insulation โดยอิฐขาว KS จะมีส่วนผสมของปูนขาวซึ่งมีคุณสมบัติในการนำความร้อนต่ำทำให้ตัวผนังที่ก่อด้วยอิฐขาว KS มีการป้องกันความร้อนได้ดี และ นอกจากนี้ยังมีรูอากาศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนอีกชั้นนึงอีกด้วย

ข้อมูลเปรียบเทียบคุณสมบัติอิฐสำหรับก่อผนัง

Tolerance rate for KS Brick = +- 2(Dimension)

ตารางเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายต่อตารางเมตร

Tolerance rate for KS Brick = +-2 (Dimension)

• กรรมวิธีการผลิต

  

  ผสม

  กระบวนการผลิตจะเริ่มจากการนำทรายและปูขาวมาผสมกันด้วยเครื่องจักร แล้วหมักทิ้งไว้ 8 ชั่วโมง เพื่อให้ทรายและปูนขาวทำปฏิกิริยาเคมีกัน

  

  อัด

  ส่วนผสมทั้งหมดจะถูกนำเข้าแม่พิมพ์ของเครื่องอัด High-Pressure ที่ใช้กำลังอัดถึง 500 ตัน เพื่อให้เนื้ออิฐแน่นเรียบ (ชักร่องเสร็จเรียบร้อย)

  

  อบ

  จากนั้น ลำเลียงอิฐเข้าเตาอบไอน้ำ (Satured Stream) ที่อุณหภูมิ 160°-220°C นานถึง 10 ชั่วโมง เพื่อให้โมเลกุลของทรายเชื่อมติดกัน ทำให้อิฐแข็งแกร่ง (สามารถรับน้ำหนักได้สูงถึง 180 กิโลกรัม ต่อ 1 ตารางเซนติเมตร

• วิธีใช้งาน

  

  การก่ออิฐขาวKS สามารถทำได้สองแบบ แบบที่หนึ่งใช้ปูนก่อทั่วๆไปที่ใช้ก่ออิฐมอญหรืออิฐบล๊อก ซึ่งมีทั้งปูนก่อสำเร็จรูปและปูนก่อผสมทรายหน้างาน แบบที่สองขณะนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงคือการก่อโดยใช้ปูนกาวก่อสำเร็จรูปที่มีขายตามท้องตลาด เช่น ตราจิงโจ้ ตราหมีเป็นต้น

  แบบที่หนึ่ง การก่อโดยปูนผสมหรือปูนก่อสำเร็จรูป โดยมาตราฐานที่เหมาะสม แนวปูนก่อทั้งด้านแนวนอนและแนวตั้ง กำหนดความหนาประมาณ 1 ซ.ม. ซึ่งจะช่วยให้การก่อสามารถทำได้อย่างต่อเนื่องในบริเวณผนังที่ไม่มีประตูและหน้าต่าง *การผสมปูนก่อผสมหรือปูนก่อสำเร็จรูป ให้เป็นไปตามมาตราฐานของผู้ผลิตปูน*

  แบบที่สอง การก่ออิฐขาวโดยการใช้ปูนกาวก่อสำเร็จรูป ปูนชนิดนี้มีความเหนียวให้ค่าการยึดเกาะสูง สามารถทำการก่อโดยก่อแห้งได้ (ปูนตราจิงโจ้) ช่างสามารถก่ออย่างต่อเนื่องโดยระยะการแห้งตัวของปูนก่ออยู่ที่ 30นาที ความหนาของปูนก่อที่ได้มาตราฐานอยู่ที่ 2-3 มม.

  ประโยชน์ที่ได้จากการก่อโดยปูนกาวก่อ

  • ประโยชน์ที่ได้จากการก่อโดยปูนกาวก่อ
  • ประหยัดแรงงาน (ใช้คนงานในการผสมปูนเพียง 1 คน)
  • บริเวรพื้นที่ทำงานสะอาด
  • รวดเร็ว
  • สามารถกำหนดงบประมาณค่าใช้จ่ายได้แน่นอนกว่า

• การก่ออิฐขาวKS

  

  • การก่ออิฐขาวKS จะต้องก่อด้วยวิธีสลับแนวให้แนวที่ก่อเหลี่ยมกันมีระยะไม่น้อยกว่า 10 ซม. ก่อให้ได้แนวทั้งทางตั้งและทางนอน โดยการขึงเชือก ทุกระยะประมาณ 60ซม. ของอิฐที่ก่อชนเสาให้เสียบเหล็กที่เสาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6มม. โดยเสียบลึกประมาณ 2 นิ้ว

  • ในกรณีที่ก่อกำแพงที่มีความสูง 2.50 เมตร และกว้างเกิน 3 เมตร ให้เทเอ็นทับหลังหรือเป็นไปตามรายการกำหนดของวิศวกรผู้ออกแบบ

  • การก่อผนังส่วนที่มีประตูหน้าต่างให้เทเสาเอ็นทับหลังคอนกรีตเสริมเหล็กโดยรอบ ตามกรรมวิธีการก่อสร้างแบบปกติ เมื่อเข้ามุมให้ก่อประสานได้โดยไม่ต้องมีเสาเอ็นคอนกรีต เช่นเดียวกับการก่อชนกำแพงก่ออิฐด้วยกัน ใช้วิธีการก่อประสานจะเพิ่มความแข็งแรงของผนังต่อเชื่อม

  • การก่ออิฐที่ชนกับท้องคานหรือท้องพื้นทุกแห่ง ให้เว้นช่องไว้ประมาณ 2-3 ซม. แล้วอุดด้วยปูนก่อทั่วไปหรือปูนกาวก่อในส่วนที่ช่องว่างระหว่างอิฐมีขนาดเล็กกว่าก้อนมาตรฐานให้ตัดโดยใช้เลื่อยไฟฟ้า ตัดเป็นก้อนเล็กกว่าขนาดช่อง1 ซม. สำหรับเนื้อปูนก่อหรืออาจให้อิฐมอญเสริมช่วยก็ได้

  • การก่ออิฐที่ชนกับท้องพื้นคาน ซึ่งมีโอกาสหย่อนตัวลงมาได้ตามหลักการมาตราฐานงานก่อสร้างบางประเภท เช่นพื้นระบบ Post Tension หรือโครงสร้างเหล็กจะต้องเว้นช่องว่างที่ส่วนบนไว้ไม่น้อย กว่า2.5 ซม. แล้วเสริมวัสดุที่มีความยืดยุ่นตัว เช่นโฟมหรือแผ่นยาง

  • การก่อผนังที่มีท่อไฟฟ้าประปา ซึ่งทำการติดตั้งอยู่ก่อนแล้วให้ก่อเว้นประกบตรงแนวท่อนั้นๆ แล้วเทปูนทรายผสมปิดทับแนวท่อ ส่วนผนังที่ต้องทำการเจาะฝังงานระบบท่อเพิ่มเติม สามารถทำการตัดโดยใช้เลื่อยไฟฟ้าแล้วจึงทำการสกัด ในกรณีฝังกล่องไฟฟ้าสามารถสกัดโดยใช้สว่านไฟฟ้า เจาะนำเป็นแนวตามขนาดของกล่องก่อนทำการสกัด

  • รอยสกัดที่ทำหลังการก่อผนังเสร็จสิ้นควรมีตะแกรงลวดปิดทับก่อนทำการฉาบเพื่อป้องกันการแตกร้าว การติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ กับผนังอิฐขาว KS ควรฝังด้วยพุกพลาสติก ซึ่งป้องกันการแตกร้าวเนื่องจากการตอกตะปู และทำให้การยึดตะปูแน่นเป็นอย่างดี